บทความนี้ชวนทุกคนมาทำความเข้าเรื่องที่ดูเหมือนจะปวดหัวเอาการกับตัวเลขต่าง ๆ นั่นคือเรื่องการถอดVat7% คนที่มีทักษะความรู้ด้านบัญชีและภาษีอยู่แล้วอาจจะไม่ยากอะไร แต่สำหรับใครที่เอาความรู้คืนอาจารย์ไปแล้ว หรือคนที่เป็นเจ้าของกิจการ คนที่ต้องทำบัญชี ส่งรายการทางภาษีเองก็ต้องมาเรียนรู้การถอดVat7% ใหม่ มันอาจจะเหมือนยากนะ แต่จริง ๆ มันก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น หากรู้หลักการแล้วรับรองเลยว่าไม่ว่าใครก็ถอดVatเป็นและทำได้ถูกวิธีแน่นอน บทความนี้จึงชวนทุกคนมาเรียนรู้ไปพร้อมกันที่ด้านล่างนี้ได้เลย
รู้จักกับ Vat 7% คืออะไรกันแน่ ทำไมต้องถอดVat7% ให้ถูกต้อง
หากแปลเป็นภาษาไทย VAT คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม นั่นเอง จะเรียกว่าเป็นภาษีทางอ้อมก็ว่าได้ ซึ่งเวลาเราจับจ่ายใช้สอยซื้อของ ซื้อสินค้าหรือบริการก็ตามเราจะได้จ่าย Vat7% ด้วยแบบเนียน ๆ แบบที่เราแทบไม่รู้สึกตัวเลย นั่นแหละภาษีทางอ้อม และทางในมุมของคนขายเองก็ต้องถอดVat7% ให้เป็นด้วย เพื่อที่จะไม่ได้ขาดทุนในการทำธุรกิจและยังส่งรายการบัญชีภาษีได้ถูกด้วย
ซึ่งภาษีมูลค่าเพิ่มตัวนี้รัฐบาลเราจะเป็นผู้เรียกเก็บ เอาแบบสั้น ๆ คือ คนที่จ่ายคือ “ผู้บริโภค” หรือ ผู้ซื้อสินค้าหรือบริการเป็นผู้สุดท้ายนั่นเอง เหตุผลที่เราแทบไม่รู้ตัวว่าเราจ่ายภาษีไปเพราะมันรวมไปในราคาสินค้าและบริหารเรียนร้อยแล้วนั่นเอง จากปกติจะมีแค่ราคาสินค้าก็จะบวกภาษีเข้าไป 7% ด้วย ถ้าใครอยากรู้ว่าเท่าไหร่ที่เพิ่มมาก็ต้องถอดVat7% ออกมาให้เป็นนั่นเอง
แน่นอนว่าคงมีคำถามต่อไปอีกว่าหลักจากกิจการร้านค้าที่ขายสินค้าและบริการให้เรานั้นเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากผู้บริโภคไปแล้ว ร้านเอาไปทำอย่างไรต่อ หน้าที่แรกเลยคือจะต้องเก็บภาษีมา ถ้าไม่เก็บก็คงเข้าเนื้อ แล้วจะทำธุรกิจเติบโตได้อย่างไร พอเก็บมาแล้วก็จะต้องทำส่งสรรพากร เพื่อให้รัฐเอาไปใช้พัฒนาประเทศ แม้ว่าเราจะอยู่ในประเทศที่รัฐจะใช้เงินภาษีเราไม่ค่อยคุ้มเท่าไรก็ตาม แต่มันคือกฎหมาย มันคือกฎ ฉะนั้นทางร้านค้าเองก็ต้องถอดVat7% ออกมาเพื่อทำบัญชีและภาษีก่อนนำส่งข้อมูล ซึ่งทางร้านก็จะต้องออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้าทุกครั้ง
หลักในการคิดและถอดVat7% อย่างถูกต้องชัดเจนทำอย่างไร
อุปกรณ์ที่จะช่วยให้คิดและถอดVat7% ได้ง่าย ๆ เลยคือ เครื่องคิดเลข ปกตินี่แหละ จะใช้แบบไหนก็ได้ตามสะดวกเลย มาดูกันว่าการคิดภาษีมูลค่าเพิ่มต้องทำอย่างไร และการถอดภาษีออกมาทำอย่างไรดังนี้
- สำหรับวิธีการถอดVat7% นั้น จะเป็นการเอาภาษีมูลค่าเพิ่มมาทำการหาค่าด้วยการ 3 ค่า คือ ราคารวม ราคาหลังจากหักภาษี และ จำนวนภาษีที่หักไป นั่นเอง ไม่ยากเลยจริงไหม ในระหว่างที่อ่านบทความนี้ก็สามารถหยิบเครื่องคิดเลขมากด มาคำนวณตามกันได้เลยนะ จะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ในการถอดVat7% จะหาราคาตั้งต้น และหาตัวภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นที่มันเพิ่มเข้ามา ตัวเลขที่ได้มานั้นเอาไปค่าทางภาษีต่อนั่นเอง ซึ่งจะมีสูตรในการถอดภาษีมูลค่าเพิ่มตามนี้ สูตรตามนี้
มูลค่า VAT = ราคารวม VAT X 7/107
ต่อไปลองมาดูตัวอย่างขั้นตอนในการถอดVat7% จากราคาเต็มกันหน่อย ให้ค่อย ๆ ทำตามก็ได้นะ สำหรับใครที่กำลังฝึกถอด Vat อยู่ ไม่ยาก ๆ ลองเลย เอาราคารวมมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น ราคารวม Vat นั้นคือ 221 บาท ต่อไปก็เอาราคาก่อน Vat มา ซึ่ง จะออกมาเป็นตามนี้
ราคารวม VAT = 221
ราคาก่อน VAT = 221 X 100/107 = 200
มูลค่า VAT = 221 X 7/107 = 21
แต่มันก็ยังไม่จบเท่านี้ สำหรับนักบัญชีจะต้องไปต่ออีกหน่อย พอเราถอดVat7% ออกมาได้จากราคาสินค้าเต็มแล้ว ก็จะต้องเอายอดที่ได้ไปคำนวณต่อ เป็นการหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% นั่นเอง ซึ่งมันก็จะมีหลักในการถอดภาษีตัวนี้อีกเช่นกัน แต่สำหรับบทความนี้เอาแค่เรื่องการคิดและถอดตัวภาษีมูลค่าเพิ่มไปก่อน เดี๋ยวจะสับสนเอาได้
- ส่วนการคิด Vat7% ก็จะคิดละอย่างกับการถอดVat7% นะ ในการคิดภาษีมูลค่าเพิ่มนี้จะเป็นการเอาราคาตั้งต้นมาคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซึ่งเราจะหาราคารวมของภาษีตัวนี้ก็ให้กดเครื่องคิดเลขไปตามสูตรเลย สูตรคือ
ราคารวม VAT = ราคาก่อนหัก VAT x 107%
สำหรับการคิด Vat7% โดยกดเครื่องคิดเลขทำตามนี้ได้เลย เราจะเริ่มที่กดตัวเลขราคาตั้งต้นก่อน แล้วกดเครื่องหมาย + ตามด้วยกดเลข 7 ตามด้วยกดเครื่องหมาย % ตามด้วยเครื่องหมาย = เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว สำหรับคนที่ต้องคิดและถอดVat7% อยู่เป็นประจำก็กดคล่องแน่นอนแบบไม่ต้องลังเลเลย หากกดตามที่กล่าวไปข้างต้นจะคิดภาษีมูลค่าเพิ่มถูกต้องแน่นอน
สำหรับใครที่ถนัดใช้งาน Excel ก็มีสูตรง่าย ๆ ในการใช้คิดภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยนะ ลองเอาไปทำตามกันได้ ซึ่งจะใช้สูตรนี้ในการหาราคาก่อน VAT คือ = ช่องราคารวม VAT X (100 ÷ 107) และสำหรับสูตรในการหามูลค่า VAT จะเป็นสูตรนี้ = ช่องราคารวม VAT X (7 ÷ 107) สำหรับใครที่ถนัดทางไหนก็เอาตามนั้นเลย ไม่ว่าจะคิดด้วยสูตรไหน ผลมันก็ออกมาเหมือนกัน ความง่ายคนละแบบ
คนที่จะมานั่งคิด มานั่งถอดVat7% ในบริษัทก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบัญชีนั่นเอง แต่ถ้าใครไม่ได้จ้างบัญชี แต่ถ้าอยากทำเองก็ลงมือเลย จะเป็นตำแหน่งไหน เป็นเจ้าของบริษัท เป็นผู้บริหาร จะมานั่งทำเองมันก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ยิ่งทำเองเป็นยิ่งดี บางคนทำเองเป็นแต่ไปจ้างบัญชีทำให้ เวลาเราอ่านงบ อ่านรายการต่าง ๆ ที่บัญชีทำมารายงานจะได้เข้าใจ เอาง่าย ๆ คือจะได้ไม่ต้องมีใครมาหลอก มาโกงเราได้ง่าย ๆ และยังทำเรื่องของการยื่นภาษีได้ไม่พลาดด้วย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น
สิทธิ์ในการเก็บ Vat 7% มีใครบ้าง
ตอบง่าย ๆ ง่ายคือ ผู้ประกอบการ คนทำธุรกิจ จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่จด VAT ก็มีสิทธิ์จะต้องทำการเรียกเก็บ VAT 7% จากผู้ซื้อหรือใช้บริการ ผู้ซื้อสินค้า สำหรับคนที่จะต้องจด VAT นั้นก็จะต้องมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ซึ่งจะนับยอดขายที่ยังไม่หักต้นทุน ใครรายได้เกินแล้วจดเลยนะหากต้องการ แต่ถ้าไม่จดแล้วยังอยากจ่ายภาษีแบบบุคคลธรรมดาก็ได้นะ แต่บอกเลยว่าจ่ายเยอะมาก แต่ถ้าหากเป็นกิจการยังไงก็ต้องจอด แล้วแต่ละปีภาษีจะต้องทำการถอดVat7% และนำส่งข้อมูลทางภาษีให้ถูกต้อง และต้องยื่นขอจดทะเบียนใน 30 วัน เริ่มนับ ณ วันที่รายได้เกิน 1.8 ล้านบาท
หากไม่จดล่ะจะเป็นอย่างไร? แน่นอนมันเป็นกฎหมาย หากทำผิดก็จะมีโทษ สำหรับกิจการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ถ้าไม่จดโทษคือ การปรับ 5000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน แต่บางกรณีก็โทษทั้งจำคุก ทั้งปรับเงินเลย แม้มันจะดูเป็นการลงโทษที่ไม่ได้หนักอะไรแต่มันเป็นการเสียเงิน เสียเวลามากเลยนะ ฉะนั้นกิจการของใครที่รายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี แล้วยื่นเรื่องจด VAT เถอะ มันไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้น ซึ่งมันก็เป็นการบ่งบอกได้ว่ากิจการของคุณนั้นเติบโตขึ้นด้วย ส่วนขั้นตอนในการยื่นเรื่องนั้นก็หาข้อมูลกันต่อได้เลย
บทสรุป
สำหรับการคิด VAT และถอดVat 7% ก็เอาไปสั้น ๆ แบบนี้เลย ใครอ่านจบก็น่าจะเข้าใจและทำตามกันได้ง่าย ๆ เอาแบบสรุป ๆ เลย สำหรับกิจการไหนที่อยากจะถอดภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อนำส่งข้อมูลภาษี เราก็เอาเครื่องคิดเลขมากดเลย เอาราคาสุทธิมา X ด้วย 100 แล้วเอาไปหารด้วย 107 มัน แค่นั้นเอง พอเรากดบ่อย ๆ คำนวณเป็นประจำ ก็จะเริ่มคล่องแน่นอน บางคนคิดเลขเก่ง แค่มองราคาสุทธิแล้วนำมาคำนวณในหัวก็ได้เป็นตัวเลขออกมาแล้ว แต่ถ้าเอาแม่น เอาชัวร์ในการถอดVat7% กดเครื่องคิดเลขดีกว่า มันเป๊ะกว่าแน่นอน จากนั้นก็เอาไปค่าทางภาษีต่อได้เลย📌Station Accout – เรารับทำบัญชีมาตรฐานสูงสุด™
เรื่องล่าสุด
