เมื่อพูดถึงหน้าที่ของอาชีพผู้ทำบัญชีแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะการทำงานหรือ 2 ฝ่ายเรียกแบบเข้าใจง่ายคือฝ่ายบัญชีรับที่มีหน้าที่ในการทวงถามหนี้ “ทวงเงิน” กับฝ่ายบัญชีจ่ายคือทำหน้าที่ด้านการจ่าย ซึ่งแต่ละฝ่ายก็มีหน้าที่การทำงานแตกต่างกันรวมไปถึงความยากง่ายในการทำงานที่ไม่เหมือนกันด้วย ในบทความนี้เราจะเจาะจงไปที่คนที่ทำงานเป็นฝ่ายบัญชีงานรับหรือเป็นงานที่ต้องทวงเงิน วางบิล เก็บเงินรวมถึงวิเคราะห์ลูกหนี้ที่ค้างชำระ นอกจากนั้นบางองค์กรจะพบว่าเป็นฝ่ายที่ต้องตรวจสอบเครดิตลิมิตว่าสามารถตั้งสำรองหนี้สูญได้เท่าไหร่หากว่าลูกหนี้ไม่ยอมชำระตามกำหนดจริง ๆ หรือเลื่อนชำระบ่อยจนไม่มีทีท่าว่าจะได้รับเงินคืน อย่างไรก็ตามในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ปัญหาลูกหนี้ไม่จ่าย จ่ายช้าหรือประวิงเวลาเลื่อนนัดจ่ายเงินวันแล้ววันเล่าก็ยังไม่จ่ายมากแบบนี้ที่มีการแชร์ว่าต้องคอยทวงถามหนี้หรือทำให้เกิดเป็นอาชีพทวงหนี้ ทำให้นักบัญชีต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเรียนรู้เทคนิควิธีในการทวงเงินขั้นเทพ ทำแล้วได้เงินไวขึ้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจในอาชีพนี้หรือทำอาชีพนี้อยู่แล้วอยากมีวิธีในการทวงเงิน 9 วิธีที่เรานำมาแชร์เป็นสาระความรู้ช่วยคุณได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้รับเงินตามกำหนดและรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรหรือบริษัทนั้น ๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ รวมถึงไม่ทำให้ลูกหนี้กลายเป็นศัตรูที่จะทำให้เกิดปัญหาบานปลายในอนาคตเหมือนเช่นในข่าวสารทุกวันนี้ที่การทวงหนี้หรือการแค้นเจ้าหนี้ก่อให้เกิดการกระทำที่รุนแรงต่อกัน
1.สอบถามทวงเงินด้วยความสุภาพ
2.สอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
เมื่อใกล้ถึงกำหนดชำระหรือเลยกำหนดชำระแล้วแต่ไม่มีการจ่ายเงิน นักบัญชีต้องสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ในกรณีที่ค้างชำระมาหลายงวดหรือเลื่อนบ่อย สิ่งสำคัญจะต้องได้คำตอบจากทางลูกค้าเกี่ยวกับเหตุผลในการค้างจ่าย เหตุผลที่ต้องทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าทำไมจึงมีการจ่ายเงินล่าช้าเพื่อที่นักบัญชีจะได้นำไปพิจารณาในการที่จะสามารถยื่นข้อเสนอใหม่ที่ช่วยให้ลูกหนี้จ่ายหนี้ง่ายขึ้นและทำให้การทวงเงินราบรื่น
3.แนะนำช่องทางที่จะทำให้การจ่ายเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น
4.ต้องให้เกียรติลูกหนี้เสมอในการทวงเงิน
เป็นวิธีการทวงหนี้ที่นักบัญชีหลายคนต้องทำเพราะการให้เกียรติจะทำให้เข้าถึงลูกหนี้ง่ายขึ้น เช่น ลูกหนี้จะรับโทรศัพท์ตลอด ไม่หนีหาย นอกจากจะทำให้คุณได้เงินแล้วไม่ทำให้เกิดความบาดหมางต่อกันอีกด้วยเพราะอย่าลืมว่าลูกหนี้อาจเป็นลูกค้าเราในอนาคต ซึ่งการให้เกียรติทำได้ง่ายคือการไม่ขู่เข็ญ ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ที่สำคัญต้องไม่ขู่ว่าจะประจานลงโซเชียลเพราะในยุคออนไลน์นี้มักจะทำให้มีหลายคนเลือกใช้การทวงหนี้ด้วยวิธีการขู่ทำให้เกิดความอับอาย ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะส่งผลเสียต่อบริษัทหรือนักบัญชีเองด้วย เรียกว่าเป็นการให้เกียรติลูกหนี้ทั้งต่อหน้าและลับหลังนั่นเอง
5.มีกำหนดเวลาที่สมเหตุสมผล
6.ทวงเงิน นัดชำระครั้งต่อไปจะต้องมีเงื่อนไข ชี้แจงอย่างสุภาพ
7.ทวงเงินแล้วจะต้องมีข้อเสนอที่ดีในกรณีหากจ่ายเงินตรงเวลา
8.ให้บริษัทเอ้าท์ซอสหรือทำหน้าที่ทวงถาม
หากพบปัญหาในการทวงเงินแล้วยังไม่ได้ผลหรือติดต่อยาก การจ้างบริษัทเอ้าท์ซอสหรือมืออาชีพในการทวงถามเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ได้เงินไวขึ้น แต่ควรเก็บไว้เป็นทางออกสุดท้ายในการทวงถามเงินดีกว่าเพราะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
9.ใช้สัญญาเป็นเหตุผล
สร้างทัศนคติเกี่ยวกับการทวงเงินว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำอย่างสุจริต
บทสรุป
นักบัญชีหลายคนที่กำลังต้องการหาวิธีในการทวงเงินขั้นเทพเมื่อรู้แบบนี้แล้วลองนำ 9 วิธีข้างต้นไปใช้ในการทวงเงิน เคล็ดลับในการทวงเงินอีกเล็กน้อยที่ควรรู้คือนักบัญชีขั้นเทพจะต้องเรียนรู้ลักษณะนิสัยของลูกหนี้ด้วยเพื่อใช้การเจรจาที่เหมาะสมกับลูกหนี้คนดังกล่าว เพราะแน่นอนว่าลูกหนี้แต่ละคนมีนิสัยแตกต่างกันซึ่งหากต้องการให้การทวงเงินเป็นไปได้ด้วยดีคือสิ่งสำคัญไม่ว่าจะชี้แจงเรื่องใดก็ตามนักบัญชีจะต้องสวมบทบาทเป็นนักพูดหรือนักขายที่เจรจาต่อรองอย่างชาญฉลาด รู้จักเลือกใช้น้ำเสียงในการพูดคุยกับลูกหนี้แต่ละราย เพียงเท่านี้การทวงเงินก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกระดับ ช่วยให้การทำงานของนักบัญชีประสบความสำเร็จลูกหนี้จ่ายเงินครบมากขึ้น📌Station Accout – เรารับทำบัญชีมาตรฐานสูงสุด™