การทำธุรกิจในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่หรือบุคคลทั่วไป นอกจากมุ่งมั่นสร้างผลกำไรแล้วหากต้องมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ขายที่ไม่ได้ทำกิจการภายในประเทศ สิ่งสำคัญคือการทำบัญชีและยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือย่อว่า “ภ.พ.36” เพราะการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องไม่อย่างนั้นจะมีบทลงโทษสำหรับผู้ซื้อหรือจ่ายค่าสินค้าที่ไม่ยื่นแบบ ภ.พ.36 วันนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการไม่ว่ารายเล็กหรือรายใหญ่ รวมถึงคนที่กำลังสนใจอยากจะทราบถึงเรื่องของการนำส่ง ภ.พ.36 หรือแม้แต่เป็นเจ้าของกิจการทั้งภายในประเทศและนอกประเทศได้ทราบถึงความหมาย ความสำคัญของการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม มาเจาะลึกกันว่ามีความสำคัญอย่างไรทำไมจึงไม่ควรมองข้าม
ภ.พ.36 คืออะไร
ภ.พ.36 เป็นแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม อันเนื่องจากมาจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการไม่ได้เข้ามาทำกิจการในประเทศไทย ทำให้ผู้จ่ายค่าสินค้าหรือบริการนั้น ๆ จะต้องเป็นผู้ที่ยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นเพราะผู้จ่ายค่าสินค้าส่วนมากมักไม่ทราบว่าตนจะต้องยื่นหรืออาจเกิดจากการหลงลืม ดังนั้นหากทราบว่าตนเองจะต้องมีการจ่ายค่าสินค้าให้กับผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่ไม่ได้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศจะต้องเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องดำเนินการยื่นนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้ตรงตามกำหนด
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งมาทำความรู้จักเกี่ยวกับเรื่องนี้เชื่อว่าคุณอาจเกิดความสงสัยและยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ในการ นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม เราจึงขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ในกรณีที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ต้องทำโฆษณาโปรโมทสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊ก แน่นอนว่าเมื่อคุณมีรายได้จากการทำธุรกิจและการโฆษณา คุณจึงต้องมีหน้าที่ในการยื่นนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มแทนเฟซบุ๊กเพื่อไม่ให้โดนเรียกเก็บภาษีหรือค่าปรับภายหลังหากว่านำส่งช้า
คุณต้องยื่น ภ.พ.36หรือไม่ ใครบ้างที่มีหน้าที่ในการยื่น ภ.พ.36
คุณอาจจะมีความสงสัยว่าธุรกิจที่ตนเองทำอยู่นั้นต้องยื่นนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มตอนไหนหรือต้องทำอย่างไร โดยเฉพาะเป็นเจ้าของธุรกิจมือใหม่หรือคนที่กำลังวางแผนอยากทำธุรกิจและอยากทราบความรู้เรื่องนี้เพราะหากละเลยแน่นอนว่าผลลัพธ์ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอนจะกลายเป็นเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายเปล่า ๆ เนื่องจากหาจ่ายช้าจะมีโทษเรียกค่าปรับดังนั้นทำความเข้าใจกันตรงนี้สักนิดว่า ผู้ที่ต้องยื่น ภ.พ.36 คือใครบ้าง มีดังนี้
- ผู้ซื้อสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้ที่เข้ามาประกอบธุรกิจหรือขายสินค้าเพียงชั่วคราว โดยประกอบการที่อยู่นอกประเทศเป็นหลัก
- ผู้ซื้อสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้ประกอบการที่ให้บริการในต่างประเทศ
ภ.พ.36 นำส่งเมื่อไหร่ จะต้องส่งทุกเดือนหรือไม่ คนทำธุรกิจต้องรู้
เป็นเรื่องปกติหากว่าการทำธุรกิจบางธุรกิจที่ยังถือว่าเป็นรายเล็กและไม่มีสำนักงานบัญชีคอยดูแลเรื่องการนำส่งภ.พ.36 ทำให้อาจจะตกหล่นได้ในการส่งไม่ทัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งทำธุรกิจหรือว่าเป็นคนที่กำลังวางแผนทำธุรกิจแนะนำให้ตั้งบันทึกความจำได้เลยว่า ในการส่ง ภ.พ.36 จะต้องดำเนินการภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไปหลังจากมีการซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ทั้งนี้คุณสามารถยื่นผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ซึ่งจะมีการขยายเวลาให้บางกรณีเท่านั้น เช่นเพิ่มอีก 1 วันเป็น 8 วัน หลังจากนำส่งเรียบร้อยแล้วนำใบเสร็จรับเงินจากกรมสรรพากรมาใช้เป็นใบกำกับภาษีซื้อเป็นหลักฐานในเดือนที่จะนำส่งภาษีได้เลย
ยื่น ภ.พ.36 ล่าช้าได้ไหม จะต้องเสียค่าปรับหรือเปล่า
หากเพิ่งได้เข้าใจเกี่ยวกับการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มเชื่อว่าคุณอาจจะเริ่มรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ แล้วว่านำส่งช้าไปจะส่งผลเสียอะไรหรือเปล่าหรือที่ผ่านมาได้จัดการส่งภาษีมูลค่าเพิ่มหรือยัง จะโดนเรียกเก็บค่าปรับเท่าไหร่ รวมถึงส่งผลเสียต่อธุรกิจหรือไม่ มาไขข้อข้องใจเรื่องนี้กันเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับหรือโดนเรียกเก็บภาษีภายหลัง
- หากเลยกำหนดแล้วยังไม่ชำระและได้รับการตรวจสอบพบว่ายังไม่ยื่น ภ.พ.36 จะมีการเรียกเก็บค่าปรับตามมาตรา 90(5)แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งจะต้องเสียค่าปรับ 2000 บาท แต่จะมีการเปรียบเทียบปรับตามข้อผ่อนปรนการปรับ เช่น ยื่นเกิน 7 วัน ปรับ 500 บาท
- ตามข้อ 18 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.81/2542ฯ กรณีที่ยื่นไว้แล้วไม่ถูกต้อง คุณไม่ต้องเสียค่าปรับใด ๆ แต่เสียเฉพาะเงินเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 0
ทำไมคนทำธุรกิจในยุคนี้ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ภ.พ.36
ต้องบอกว่ายุคนี้มีธุรกิจที่ต้องใช้การโฆษณาจากแพลตฟอร์มต่างประเทศมากยิ่งขึ้นเพราะเป็นยุคที่มีการซื้อขายออนไลน์มากกว่าเมื่อก่อน โดยเฉพาะการใช้สื่อโซเชียลในการโฆษณาหรือโปรโมทสินค้าบริการ จะเห็นได้บ่อยจากการโฆษณาในเฟซบุ๊ก กูเกิ้ล ตัวกลางขนส่ง E-Commerce หรือช่องทางอื่น ซึ่งการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ภ.พ.36 จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเปรียบในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่บวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เพราะหากมีการคิดค่าบริการจากเจ้าของธุรกิจที่ดำเนินการที่ต่างประเทศคุณสามารถแจ้งข้อมูลกับทางแพลตฟอร์มนั้นได้ว่าคุณจะเป็นผู้นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยตัวเอง เรียกได้ว่าไม่ต้องเสียสองต่อโดยใช่เหตุหรือไม่ต้องโดนเรียกเก็บภาษีซ้ำซ้อน
ยกตัวอย่างหากว่าคุณใช้เฟซบุ๊กในการทำโฆษณาหรือโปรโมทสินค้าหรือบริการ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เฟซบุ๊กได้ประกาศแล้วว่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและนำเงินส่งให้กับประเทศไทย ซึ่งหากคุณไม่ได้ติดตามข่าวนี้อาจทำให้คุณนำส่งเองโดยที่ไม่ได้แจ้งทางเฟซบุ๊กผ่านทางออนไลน์ก่อน ดังนั้นเจ้าของธุรกิจที่ใช้เฟซบุ๊กเพื่อเป็นช่องทางโฆษณาหรือโปรโมทสินค้า คุณต้องแจ้งเลขประจำตัวผู้เสียภาษีให้เฟซบุ๊กเพื่อไม่ให้เฟซบุ๊กคิดค่ามูลค่าเพิ่มนั่นเอง แน่นอนว่าการนำส่ง ภ.พ.36 เป็นเรื่องง่ายกว่าที่คุณจะต้องมาโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังให้เสียเวลาและความรู้สึก คนทำธุรกิจในยุคนี้จึงต้องให้ความสำคัญเพื่อเป็นการดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ต้องมาคอยระแวงว่าจะโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังที่บวกค่าปรับอีกเมื่อไหร่
รู้หรือไม่ทำไมคนทำธุรกิจออนไลน์ต้องให้ความสำคัญกับการส่ง ภ.พ.36
ทุกวันนี้คนทำธุรกิจออนไลน์โดยใช้เครื่องมือทำการตลาดออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก Google ทั้งหมดนี้เป็นช่องทางที่คุณจะต้องมีการนำส่ง ภ.พ.36 ทั้งสิ้น เพราะถือว่าเป็นผู้ประกอบการที่ให้บริการในต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งต้องบอกว่าหากเปรียบเทียบการทำธุรกิจออนไลน์ในสมัยก่อนกับปัจจุบันนี้ กฎเกณฑ์หรือระเบียบต่าง ๆ มีความแตกต่างกันมาก เรียกได้ว่าเมื่อก่อนการทำธุรกิจออนไลน์เป็นเรื่องง่ายไม่ต้องให้ความสำคัญกับการส่ง ภ.พ.36 เพราะการใช้เฟซบุ๊กหรือกูเกิ้ลเป็นเครื่องมือการตลาดถือว่าฟรี ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งเทียบกันตอนนี้แล้วเรียกว่าคนทำธุรกิจมองข้ามไม่ได้เพราะจะต้องมีการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้ถูกต้องตามกฎหมาย
บทสรุป
เพื่อให้การทำธุรกิจดำเนินไปอย่างถูกต้องนอกจากจะแสวงหาผลกำไรแล้วสิ่งสำคัญต้องดำเนินการจ่ายภาษีรวมถึงนำส่ง ภ.พ.36 ตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ถูกเรียกเก็บย้อนหลังทั้งยังทำให้เกิดความสบายใจในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการให้การยื่น ภ.พ.36 เป็นเรื่องง่ายขึ้นและต้องการความสะดวกสบาย แนะนำให้มีฝ่ายบัญชีที่สามารถทำหน้าที่นี้ได้เพียงเท่านี้ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระคุณแล้วหรือหากเป็นธุรกิจรายเล็กที่ต้องการจะประหยัดค่าใช้จ่ายก็สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองผ่านทางระบบออนไลน์ สะดวกรวดเร็วเช่นกัน ในส่วนของผู้ที่กำลังสนใจหรือต้องการสอบบัญชีแน่นอนว่าเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นประเด็นที่สำคัญไม่น้อยเพราะในอนาคตประเทศไทยจะก้าวสู่การทำธุรกิจแบบ E-Commerce อย่างเต็มรูปแบบซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องมีการซื้อขายสินค้าในต่างประเทศยิ่งขึ้น เมื่อรู้เกี่ยวกับการยื่น ภ.พ.36 ก็ย่อมทำให้ผู้ที่ทำอาชีพบัญชีเข้าใจในความสำคัญของการยื่นภาษีดังกล่าว ทั้งนี้หากอยากทราบว่าจะต้องยื่น ภ.พ.36 ออนไลน์อย่างไรสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมสรรพากร https://rdserver.rd.go.th/ สะดวกสบายและตอบโจทย์สำหรับยุคนี้ที่คุณไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านเดินทางไปยังกรมสรรพากรด้วยตัวเอง ทั้งยังเป็นช่องทางที่ใช้งานง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็ทำให้การยื่น ภ.พ.36 สำเร็จ📌Station Accout – เรารับทำบัญชีมาตรฐานสูงสุด™