ทำไมผู้ประกอบการควร จดทะเบียนบริษัท

จดทะเบียนบริษัท

การเติบโตทางธุรกิจในยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดนเป็นไปอย่างแพร่หลายและก้าวกระโดด เนื่องจากของใกล้ตัวสามารถนำมาแปรรูปให้เกิดมูลค้าและซื้อขายได้ง่ายดายมากขึ้น คำว่า ตลาด ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยขนาดหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งอีกต่อไป เมื่อเกิดตลาดออนไลน์ขึ้น จึงตามด้วยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำนวนมาก การค้าขายก็มีความหลากหลายเช่นกันและเพื่อเป็นการจัดการธุรกิจให้เป็นระบบระเบียบที่สามารถตรวจสอบได้อย่างง่าย ให้เกิดความน่าเชื่อถือขึ้น นาย นางสาว หรือ บุคคลธรรมดาจึงเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองด้วยการจดทะเบียนนิติบุคคลหรือที่ภาษาธุรกิจเรียกว่า บริษัทจำกัด

  เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อ “จดทะเบียนบริษัท” หรือง่าย ๆ ที่เรียกว่านิติบุคคลแล้วนั้นจะถือเสมือนหนึ่งว่าบริษัทนั้นแทนตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่รวมกันก่อตั้งสถานประกอบการขึ้นด้วยการตั้งชื่อบริษัท มีเลขที่ผู้เสียภาษีอย่างชัดเจน  2 ส่วนนี้ถือเป็นตัวแทนทั้งหมดของบริษัท โดยจะถูกนำไปแสดงในหนังสือสำคัญอยู่เสมอ ๆ เช่น ใบจัดซื้อจัดจ้าง ใบกำกับภาษี ใบเสร็จ ฯลฯ

สารบัญ
    Add a header to begin generating the table of contents

    จดทะเบียนบริษัท ดีอย่างไร

    แน่นอนว่าการที่บุคคลธรรมดาเลือกจดทะเบียนบริษัททั้งๆที่การ จดทะเบียนบริษัท นั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งในเรื่องของการทำบัญชี, ค่าสอบบัญชี, ค่าปิดงบ ฯลฯ นอกจากนี้ในการจดทะเบียนบริษัท ยังต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนต้องใช้เวลาและบุคลากรในการดำเนินการ เนื่องจากเป็นเพราะความคุ้มค่าในเรื่องอัตราการเสียภาษีที่ต่ำกว่าการเสียภาษีในรูปแบบของบุคคลธรรมดา ตามกฎหมายเมื่อมีการ จดทะเบียนบริษัท หรือเป็นนิติบุคคลแล้วนั้นจะเสียภาษีสูงสุด เพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นและหากเป็นบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางหรือที่เรียกกันว่า SME จะโดนเรียกเก็บภาษีเพียงแค่ 15 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่การคิดภาษีของนิติบุคคล กฎหมายระบุให้เสียภาษีในอัตราที่สูงถึง 35 เปอร์เซ็นต์ โดยในการคำนวณภาษีของบริษัทกำหนดว่าให้หักค่าใช้จ่ายตอนคิดภาษีตามจริง เหตุนี้จึงทำให้กำไรที่ได้ลดลง เมื่อคิดภาษีที่จะต้องจ่ายจึงไม่ได้มากเท่าอัตราภาษีของบุคคลธรรมดา ซึ่งแน่นอนว่าหากพ่อค้าแม่ค้าท่านใดที่รับโอนเงินผ่านบัญชีส่วนตัวและมีรายได้สูงก็จะโดนเก็บภาษีเป็นจำนวนเงินที่สูงเช่นเดียวกัน

    และหากท่านใดไม่ได้กังวลในเรื่องของการเสียภาษี ด้วยเพราะคิดว่ามีความสามารถหลบเลี่ยงกรมสรรพากรจากการที่ไม่มีรายการรับโอนเงินเกิน 400 ครั้ง หรือไม่ได้รับการโอนเงิน เกิน 2 ล้านบาท ท่านใดที่ใช้วิธีนี้อยู่ขออย่าได้นิ่งนอนใจ  เนื่องจากโดยปกติหากมีการโอนเงินเกินจำนวนดังที่กล่าวไปข้างต้น ทางธนาคารจะทำรายงานส่งไปที่สรรพากรว่ามีการทำธุรกรรมเข้าข่ายตามที่สรรพากรต้องการ ส่วนหน้าที่ในการตรวจสอบจะเป็นส่วนของสรรพากร ซึ่งจะต้องตรวจสอบผู้มีเงินได้ทุกคนอยู่แล้ว แม้ธนาคารจะส่งรายการไปหรือไม่ก็ตาม อย่างไรเราทุกคนจะต้องได้รับการตรวจสอบจากกรมสรรพากรที่มีอำนาจโดยตรงในเรื่องนี้ และหากกรมสรรพากรสืบทราบภายหลังว่าบุคคลธรรมดาส่งรายงานภาษีเงินได้ไม่ตรงตามจริง บุคคลท่านนั้นจะต้องเสียค่าปรับที่ไม่เสียภาษีตามกฎหมายกำหนด ขอบอกเลยว่านี่คือสิ่งที่นักธุรกิจกลัวกันมากที่สุด เพราะค่าปรับสูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ดังนั้นการ จดทะเบียนบริษัท จึงค่อนข้างเกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในเรื่องการลดรายจ่ายของการเสียภาษี 

    อีกข้อดีของการ จดทะเบียนบริษัท เป็นนิติบุคคลคือ ความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นเนื่องจาก ขั้นตอนของการจดทะเบียนบริษัทจะต้องผ่านการประเมินจากหน่วยงานราชการหลายหน่วยงานดังนั้นจึงถือว่าได้รับการตรวจสอบถึงการมีอยู่จริงและถือว่ามีความน่าเชื่อถือทางด้านงานเอกสาร งานบัญชี งานการจัดตั้งองค์กร รวมไปถึงงานทางด้านประกันสังคมด้วย

    ทั้งนี้ปัจจุบันการ จดทะเบียนบริษัท ไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อน โดยจะต้องมีผู้ก่อการหรือผู้ก่อตั้งขั้นต่ำจำนวน 3 คน และใน 3 คนนั้นต้องถือหุ้นขั้นต่ำอย่างน้อย 1 หุ้นหรือมากกว่าโดยทุนจดทะเบียนขั้นต่ำของการ จดทะเบียนบริษัท เริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท

    ซึ่งจำนวนทุนจดทะเบียนมีประโยชน์สำหรับบริษัทที่ต้องการรับงานกับองค์กรอื่น ๆ เช่นงานก่อสร้างหรืองานประมูลที่ต้องแข่งขันกับองค์กรอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งงาน ๆ ด้วยระเบียบการพิจารณาจัดชื้อจัดจ้างในบางครั้งจะนำทุนจดทะเบียนบริษัทมาใช้ในการพิจารณาด้วย เพราะทุนจดทะเบียนสามารถเป็นหลักประกันหากเกิดปัญหาขึ้นในงาน บริษัทที่ว่าจ้างจะสามารถฟ้องร้องได้ไม่เกินทุนจดทะเบียนซึ่งหาก จดทะเบียนบริษัท เป็นจำนวนเงินมากส่วนนี้จะเป็นผลดีกับลูกค้าการมีทุนจดทะเบียนที่สูงจึงเป็นที่นิยมสำหรับบางองค์กร

    นอกจากนี้การ จดทะเบียนบริษัท ยังเป็นผลดี เมื่อองค์กรนั้นต้องการสร้างเครดิตทางบัญชี เนื่องจากเมื่อ จดทะเบียนบริษัท แล้ว จะมีรายละเอียดยิบย่อย ในเรื่องของการทำบัญชีซึ่งถือเป็นหลักสำคัญอย่างมากที่จะต้องแสดงต่อสรรพากร ด้วยเพราะกฎหมายบังคับไว้ว่าต้องมีข้อมูลทางบัญชีที่แสดงถึงรายได้ของบริษัทนั้น ๆ อย่างชัดเจน เมื่อผู้ประกอบการมีความประสงค์ที่จะกู้ยืมก็มีหลักฐานคือข้อมูลทางบัญชีไปใช้เป็นเอกสารประกอบการกู้ซึ่งจะช่วยให้การยื่นขออนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น

    ไม่ จดทะเบียนบริษัท ถือว่าผิดกฎหมายไหม

    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจจะต้องทำการ จดทะเบียนบริษัท เป็นนิติบุคคลเท่านั้นแต่จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมด้วย หากธุรกิจที่ทำไม่ได้ใหญ่มากหรือยังไม่พร้อมที่จะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการทำบัญชี การจ้างสอบบัญชี การจ้างปิดงบ ผู้ประกอบการก็ยังไม่ต้องรีบตัดสินใจ หรือเปลี่ยนสถานะมาเป็นนิติบุคคล เพราะการทำธุรกิจโดยเป็นบุคคลธรรมดาหรือรับเงินผ่านบัญชีส่วนตัวไม่ถือเป็นการทำผิดกฎหมายเพียงแต่เมื่อถึงช่วงปลายปีเวลาส่งรายงานภาษีกับสรรพากร ท่านจะต้องส่งข้อมูลให้ละเอียดและครบถ้วน เพื่อให้สรรพากรได้ตรวจสอบที่มาของเงินได้ได้อย่างสะดวกและถูกต้องตามที่ควรจะเป็น

    ขั้นตอนและวิธีการ จดทะเบียนบริษัท

    อันดับแรกจะต้องมีการตั้งชื่อ เพื่อเสนอแก่นายทะเบียน ชื่อบริษัทจะต้องไม่ซ้ำหรือคล้ายกับบริษัทอื่นที่เคย จดทะเบียนบริษัทไปแล้ว โดยสามารถเสนอได้ทั้งหมด 3 รายชื่อ ซึ่งนายทะเบียนจะพิจารณาชื่อตามลำดับที่เสนอไป หากชื่อแรกซ้ำกับบริษัทอื่น นายทะเบียนก็จะพิจารณาชื่อลำดับถัดมาแทน โดยการยื่นจองชื่อเพื่อจดทะเบียนสามารถทำได้ 2 แบบ 

    1. ยื่นด้วยตนเองต่อนายทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือ หากอยู่ที่ต่างจังหวัดสามารถยื่นได้ที่สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัด 
    2. สามารถ จองผ่านระบบ อินเทอร์เน็ตที่ www.dbd.go.th เมื่อชื่อผ่านการรับรองแล้วให้จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ หรือหนังสือที่ใช้แสดงความประสงค์ในการจัดตั้งบริษัทซึ่งจะมีรายละเอียดการค้า ชื่อของบริษัท  ที่ตั้งสำนักงานใหญ่หรือสาขา  ทุนจดทะเบียน  จำนวนหุ้น  รวมถึงประเภทของกิจการว่าเป็นแบบใดปรากฏในหนังสือนี้ ในระหว่างที่รอนายทะเบียนพิจารณาและตรวจสอบความถูกต้อง  ทางผู้ก่อตั้งควรเตรียมเอกสารเพื่อยื่นตามขั้นตอนการ จดทะเบียนบริษัท ต่อไป โดยให้จัดตั้งการซื้อหุ้นเพื่อให้เกิดผู้ถือหุ้นขึ้นมาโดยในการจัดตั้งบริษัทต้องมีอย่างน้อย 3 คน หลังจากนั้นให้ออกหนังสือนัดทำการประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อถึงวันประชุมจะเป็นการเลือกตั้งคณะกรรมการบริษัทและอำนาจของคณะกรรมการ เสร็จแล้วจึงจะสามารถขอจดทะเบียนบริษัทโดยต้องยื่นคำขอและดำเนินการภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่มีการประชุม เมื่อยื่นคำขอแล้วให้ชำระค่าธรรมเนียมและมาถึงขั้นตอนสุดท้ายเมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียน  แล้วผู้ประกอบการจะได้ รับใบสำคัญหนังสือรับรองการ จดทะเบียนบริษัท เพียงเท่านี้ถือว่าคุณได้ทำตามขั้นตอนได้สมบูรณ์แล้ว

    บทสรุป

    จะเห็นได้ว่าการที่ จดทะเบียนบริษัท ไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิดและค่อนข้างเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการเสียเป็นส่วนมากทั้งในเรื่องของการเสียภาษีเงินได้ที่น้อยกว่าการเป็นบุคคลธรรมดา ความน่าเชื่อถือขององค์กรรวมไปถึงโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการเป็นบุคคลธรรมดา ฉะนั้นเมื่อใครที่กำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจหรือได้เริ่มมาพักใหญ่แล้วต้องศึกษาเรื่องเหล่านี้ให้ดี เพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาทีหลังนั้นเอง📌Station Accout – เรารับจดทะเบียนบริษัทดีที่สุด™

    สำนักงานบัญชีคุณภาพ