ภาษีอีเพย์เมนต์ คืออะไรเรามีคำตอบ

ภาษีอีเพย์เมนต์

ปัจจุบันนี้การเปิดธุรกิจออนไลน์เป็นที่นิยมมาก ด้วยว่าไม่ต้องใช้ต้นทุนสูงอีกทั้งยังมีช่องทางในการทำการตลาดด้วยเครื่องมือที่หลากหลายอีกด้วย อย่างการใช้เฟซบุ๊ก อินตราแกรม เหล่านี้เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถนำมาใช้เป็นช่องทางในการทำโฆษณาและสร้างแบรนด์เพื่อผลักดันให้ธุรกิจหรือสินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไวยิ่งขึ้น โดยวันนี้สิ่งสำคัญที่คนทำธุรกิจออนไลน์ไม่ควรมองข้ามนอกจากการทำการตลาดหรือวางแผนธุรกิจเพื่อเอาชนะคู่แข่งในสายธุรกิจเดียวกัน เรื่องบัญชีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญด้วย เพราะปัจจุบันนี้ภาษีของร้านค้าออนไลน์หรือ ภาษีอีเพย์เมนต์” เริ่มบังคับใช้แล้ว สำหรับใครที่กำลังวางแผนทำร้านค้าออนไลน์วันนี้หรือทำอยู่แต่ยังไม่รู้ลึกเรื่องนี้วันนี้เรามาเปิดเรื่องราวเกี่ยวกับภาษีอีเพย์เมนต์ ว่าใครบ้างต้องจ่ายและภาษีนี้คืออะไรเกิดขึ้นเพื่ออะไร ทำไมจำเป็นจะต้องยื่นให้ถูกต้องตามกฎหมาย มาไขข้อสงสัยในเรื่องนี้กัน เชื่อว่าเป็นเรื่องที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนให้ความสนใจแน่นอน เนื่องจากจะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่งผลดีต่อการทำธุรกิจออนไลน์ในวันนี้

สารบัญ
    Add a header to begin generating the table of contents

    ทำความรู้จักเกี่ยวกับ ภาษีอีเพย์เมนต์ ภาษีที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องรู้

    ภาษีอีเพย์เมนต์ มีไว้เพื่อรองรับระบบภาษี เอกสารธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำส่งเงินภาษีรวมถึงยื่นรายการเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาษีอากรได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยภาษีอีเพย์เมนต์ ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 และให้คนทำธุรกิจหรือเปิดร้านค้าออนไลน์สามารถยื่นส่งรายงานธุรกรรมครั้งแรกต่อกรมสรรพากรได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 คำถามที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนเกิดความสงสัยคือจะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องยื่นเอกสารเสียภาษีหรือไม่ ต้องมีรายได้เท่าไหร่จึงจำเป็นจะต้องยื่นรายงาน ในบทความนี้เรามีคำตอบเพื่อให้คนทำธุรกิจได้คลายข้อสงสัยว่าการเสียภาษีนี้แท้จริงแล้วยุ่งยากหรือง่ายกันแน่

    ใครบ้างจะต้องเสีย ภาษีอีเพย์เมนต์

    เมื่อพูดถึงว่าเป็นการเสียภาษีภาษีอีเพย์เมนต์ที่คนเปิดร้านค้าออนไลน์จะต้องยื่น ทำให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยหลายคนเริ่มเกิดความกังวลว่าตนจะเข้าข่ายต้องเสียภาษีหรือไม่ วันนี้เราจึงนำมาบอกต่อว่าใครบ้างจะต้องยื่นภาษีอีเพย์เมนต์

    • สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ที่รับงานผ่านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ใดก็ตาม
    • สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่มีการจดทะเบียนการค้าหรือจดทะเบียน Vat ให้ยื่นภาษีตามปกติไม่ต้องยื่นอะไรเพิ่มเติม
    • สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รายเล็ก รายใหญ่ที่ไม่เคยเสียภาษีมาก่อน จะต้องเข้าระบบโดยการจดทะเบียนบริษัทให้ถูกต้องจึงจะสามารถยื่นเอกสารเพื่อเสียภาษีได้

    นอกจากกลุ่มคนเหล่านี้แล้วยังเป็นการเรียกเก็บภาษีที่ทำขึ้นเพื่อตรวจสอบผู้ที่หลบเลี่ยงภาษีด้วยไม่ว่าจะเป็น มนุษย์เงินเดือน อาชีพรับจ้าง รวมถึงบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ที่อาจจะมีแนวโน้มว่าหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่เคยเสียภาษีมาก่อน ฉะนั้นหากคุณเริ่มต้นทำธุรกิจหรือประกอบอาชีพใดก็ตาม การยื่นภาษีให้ถูกต้องมีความจำเป็นอย่างมาก นอกจากจะถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กิจการของคุณอีกด้วย

    หากคุณมีคุณสมบัติต่อไปนี้จะต้องทำให้กรมสรรพากรได้รับข้อมูลรายได้ โดยจะต้องยื่น ภาษีอีเพย์เมนต์

    มีการฝากหรือโอนเงินเข้าบัญชี 3,000 ครั้งต่อปีโดยนับเฉพาะจำนวนครั้งที่รับโอนเท่านั้น ซึ่งสิ่งสำคัญคือไม่ว่าการรับโอนเงินในครั้งนั้นจะมีมูลค่ามากหรือน้อยก็ตาม หากรวมแล้วครบ 3,000 ครั้งต่อปีคุณจะต้องยื่นรายงานธุรกรรมต่อสรรพากร นอกจากนั้นแล้วจะต้องมีการฝากหรือโอนรวมกันตั้งแต่ 400 ครั้งนอกจากนั้นมียอดรวมตั้งแต่ 2 ล้านบาทต่อปี เหล่านี้หากว่าคุณทำธุรกิจออนไลน์และมีการโอนเงินเข้าบัญชีหรือแม้แต่การฝากโอนตามเงื่อนไขข้างต้น จะต้องยื่นรายงานธุรกรรมต่อสรรพากรเพราะไม่เช่นนั้นอาจถูกเรียกตรวจสอบในภายหลังและหากพบว่าไม่ได้ยื่นก็จะมีการเรียกเก็บค่าปรับ

    จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนเสีย ภาษีอีเพย์เมนต์

    นี่คือเรื่องสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หรือคนที่เปิดร้านค้าออนไลน์ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะหากคุณจะต้องเสียภาษีอีเพย์เมนต์ จะต้องผ่านการจดทะเบียนร้านค้าออนไลน์หรือจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาก่อน ทั้งนี้ในเรื่องของบัญชีจะต้องแยกจากบัญชีส่วนตัวกับธุรกิจออกจากกันก่อนและอย่าลืมเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินไว้ทั้งหมด เพื่อนำไปยื่นเสียภาษีให้ถูกต้อง โดยขั้นตอนการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ง่ายมาก โดยสามารถที่จะเดินทางไปจดทะเบียนฯ ตามเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลตามที่ตั้งสถานประกอบการจากนั้นก็ยื่นเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนฯ เช่น การแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง กรอกเอกสารแบบคำขอจดทะเบียนพาณิชย์ วาดแผนที่ตั้งสถานประกอบการ หนังสือรับรองการจดในนามนิติบุคคล เพียงเท่านี้ร้านค้าออนไลน์ของคุณก็จะได้ขึ้นทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่าขั้นตอนไม่ยุ่งยากเลย ไม่กี่ขั้นตอนทุกอย่างจะสำเร็จเรียบร้อย

    มือใหม่ทำธุรกิจออนไลน์ยื่นเสีย ภาษีอีเพย์เมนต์ อย่างไรให้ถูกต้อง

    อย่างที่เกริ่นไปว่าใครที่ทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์สิ่งสำคัญจะต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน จากนั้นคุณจะต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้ชัดเจน รวมถึงจดบันทึกรายรับรายจ่ายที่บางครั้งอาจพบว่ากว่าจะได้เอกสารก็ต้องรอจนถึงสิ้นปีดังนั้นการบันทึกรายรับรายจ่ายด้วยตัวเองจะช่วยให้คุณไม่พลาดในข้อมูลนี้ โดยเฉพาะรายรับรายจ่ายที่เป็นการชำระหรือรับเป็นเงินสด ซึ่งมักจะไม่มีใบเสร็จ การบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นตัวอักษรจึงมีความสำคัญพร้อมเมื่อคุณต้องยื่นเสียภาษีอีเพย์เมนต์จะต้องรวบรวมบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดส่งให้กับสรรพากรตรวจสอบ 

    ทั้งนี้ผู้ประกอบการหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถที่จะยื่นภาษีได้ 2 แบบ ได้แก่

    1.แบบหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% เป็นรูปแบบการเสียภาษีที่ไม่ต้องแสดงหลักฐานค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย 

    2.แบบหักค่าใช้จ่ายแบบตามจริง เป็นรูปแบบการเสียภาษีที่จะต้องมีการยื่นเอกสารค่าใช้จ่ายรวมถึงต้นทุนที่เกี่ยวกับการขายออนไลน์ โดยหากรวมแล้วพบว่าสูงกว่า 60% ของเรายได้ จะต้องรวบรวมเอกสารให้ชัดเจนเพื่อที่ใช้สิทธิ์หักค่าใช้จ่ายแบบตามจริง

    เรียกได้ว่าการเปิดร้านค้าออนไลน์วันนี้ไม่เพียงต้องมุ่งสร้างโอกาสทางการเงินหรือทำธุรกิจเพื่อทำยอดกำไรสูง ๆ เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อที่จะได้รับการลดหย่อนซึ่งเป็นอีกหนึ่งในช่องทางลดค่าใช้จ่าย รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าออนไลน์ได้ดีอีกด้วย เนื่องจากจะยื่นภาษีได้ก็ต้องผ่านการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาก่อนแล้ว เพราะแสดงให้เห็นว่าคุณทำธุรกิจออนไลน์ด้วยความโปร่งใส ทั้งยังผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนด ทำให้คุณได้เรียนรู้เทคนิคการขายใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย แน่นอนว่าในอนาคตธุรกิจของคุณจะไร้ปัญหาเกี่ยวกับภาษี

    บทสรุป

    ต้องยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจออนไลน์มาแรงและไม่มีแผ่ว ผู้คนจำนวนมากสร้างรายได้จากช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ ดังนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานธุรกิจในอนาคต ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ควรที่จะศึกษาว่าในการทำร้านค้าออนไลน์นั้นจะต้องดำเนินธุรกิจอย่างไรให้ถูกต้องและไม่เกิดผลเสียในอนาคต ซึ่งการเสียภาษีอีเพย์เมนต์ ยังส่งผลดีต่อการทำธุรกิจและเป็นการจัดระเบียบการเสียภาษีของประชาชนด้วย ทั้งนี้พ่อค้าแม่ค้ารายเล็กไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นการเรียกเก็บภาษีขูดเลือดขูดเนื้อ เพราะนี่ไม่ใช่การเรียกเก็บภาษีอย่างไร้เหตุผล เพราะนี่เป็นวิธีที่จะทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องเลี่ยงเสียภาษี ไม่ว่าจะเป็นการขายออนไลน์ที่ต้องเก็บเงินปลายทางหรือแบบโอนเงินก็สามารถที่จะต้องตรวจได้เช่นกัน เมื่อรู้แบบนี้แล้วใครที่กำลังอยากทำธุรกิจออนไลน์มาเริ่มต้นอย่างถูกกำหมายกันเถอะ เพื่อให้การทำธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและสร้างความสบายใจในการค้าขายออนไลน์ต่อไป📌Station Accout – เรารับทำบัญชีมาตรฐานสูงสุด™

    สำนักงานบัญชีคุณภาพ