หนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 คืออะไร

หนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 คืออะไร

สำหรับคนที่ทำบริษัทเป็นของตัวเองหรือทำเกี่ยวกับบัญชีและภาษีก็คงจะได้ยินคำว่าหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 บ่อยไม่น้อยเลย แต่ทราบถึงความหมายหรือยังว่าคืออะไร เป็นเอกสารหน้าตาแบบไหน ใช้สำหรับทำอะไรบ้าง สำคัญต่อการประกอบกิจการอย่างไรบ้าง ทุกคนควรจะรู้โดยเฉพาะคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจ เพราะมันอาจจะเกี่ยวเนื่องกับหลาย ๆ เรื่องทางด้านกฎหมาย ชวนทุกคนมาทำความรู้จักว่าทั้ง 2 แบบที่กล่าวถึงนี้คืออะไร เอาแบบเข้าใจง่าย ๆ มาดูกันว่ามีความหมายว่าอะไรติดตามได้ที่ด้านล่างนี้เลย

สารบัญ
    Add a header to begin generating the table of contents

    รู้จักหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 คืออะไร เป็นเอกสารอะไร

    อย่างแรกเลยมารู้จักกับ บอจ.5 ก่อน ถ้าหากเป็นคนที่ไม่ได้ทำเกี่ยวกับบัญชี ภาษี การทำบริษัทอาจจะไม่คุ้นชินกับคำนี้ ไหน ๆ มาเข้ามาหาข้อมูลกันแล้ว มาอ่านต่อกันอีกนิด แต่ไม่ใช่เกี่ยวกับหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 ทั้งหมด แต่เป็นเฉพาะของ บอจ.5 เท่านั้นมาดูก่อนว่ารายละเอียดส่วนนี้คืออะไร

    เอกสาร บอจ.5 นั้นจะเป็นเอกสารที่มีการแสดงว่าในบริษัทเรานั้นมีใครถือหุ้นอยู่บ้าง มีจำนวนกี่คน อัตราส่วนของแต่ละคนเท่าไหน่บ้างนั่นเอง ซึ่งตัวรายละเอียดในเอกสาร บอจ.5 นั้นจะมีทั้งชื่อ เลขทะเบียนบ้าน ที่เป็นของบริษัท มีวันที่ลงรายชื่อของผู้ถือหุ้นด้วย จะมีทั้งข้อมูล ณ วันประชุมสามัญด้วย แล้วยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับมูลค่าจดทะเบียน จำนวนของหุ้น ราคาต้นหุ้นเท่าไหร่ แล้วทั้งหมดของผู้ถือหุ้นคือเท่าไหร่ ยังไม่หมดเท่านั้นใน บอจ.5 ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยของผู้ถือหุ้นทุกคนด้วยว่าเป็นใคร ชื่ออะไร สัญชาติไหน ถือกันคนละเท่าไหร่ วันที่ในการนำส่งคือวันไหนประมาณนี้เลย รวมกันในเอกสารก็ถูกเรียกว่า บอจ.5 นั่นเอง

    หนังสือรับรองบริษัทคืออะไร มาทำความเข้าใจแบบง่าย

    มาถึงหัวข้อนี้ก็มาทำความเข้าใจเรื่องของหนังสือรับรองบริษัทว่าหมายถึงอะไร ซึ่งเราจะไม่ได้เหมาว่าเป็นหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 เพราะมันคนละส่วนกัน แค่มันจะทำงานร่วมกันบ่อย ๆ แค่นั้นเอง สำหรับ บอจ.5 เราได้อธิบายไว้เบื้องต้นแล้วในข้อที่กล่าวมาข้างต้น สำหรับข้อนี้ก็จะมาลงรายละเอียดของตัวหนังสือรับรองบริษัท ความหมายมีตามนี้เลย เอกสารตัวนี้จะเป็นเอกสารที่บอกถึงการมีอยู่ของบริษัทจริง ๆ มีที่ตั้งจริง ๆ บนแผ่นดินนี้ ไม่ใช่บริษัทที่อยู่ ๆ ก็อ้างขึ้นมาแบบปลอม ๆ การที่บริษัทมีเอกสารตัวนี้ก็เป็นตัวการันตีว่าเราไม่ปลอม สร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้า ลูกค้ามากขึ้น

    สำหรับรายละเอียดที่อยู่ในหนังสือรับรองบริษัทนั้นก็จะมีเป็นข้อมูล ชื่อบริษัทชื่ออะไร เลขทะเบียนนิติบุคคล ที่ตั้ง กรรมการที่มีอำนาจในบริษัทชื่ออะไรมีใครบ้าง วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งบริษัทนี้คืออะไร เอกสารตัวนี้จะแสดงรายการออกมาครบเลย แต่หลัก ๆ แล้วก็จะใช้ทั้ง หนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 ไปพร้อมกันเสมอเวลาจะนำไปใช้งาน เวลาจะติดต่องานกับใครก็ตาม อย่างเช่นการขึ้นทะเบียนประกันสังคม การเปิดบัญชีบริษัท เบอร์ และอื่น ๆ

    ใช้หนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 ในการทำอะไรบ้าง

    ทั้ง 2 เอกสารล้วนสำคัญต่อบริษัทจำเป็นที่จะต้องใช้มาก ๆ เวลาที่ติดต่อในหลายหน่วยงาน ซึ่งทั้งหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 นั้นจะถูกใช้พร้อม ๆ กัน อย่างเวลาจะติดต่อกับหน่วยงานราชการ ติดต่อกับธนาคาร ติดต่อกับทางสรรพากร หรือหน่วยงานเอกสารก็ตามจะต้องใช้เอกสารหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 เหมือนกัน เป็นการยืนยันว่าบริษัทมีตัวตน มีจริง ๆ และจะต้องมีการนำส่งด้วยในส่วนของเอกสาร บอจ.5 หากไม่นำส่งค่าปรับก็จะตามมา แล้วจะนำส่งใคร คำตอบคือธุรกิจจะต้องส่งให้กับนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1 ครั้ง/ปี เป็นอย่างน้อย

    หากไม่มีการนำส่งต่อนายทะเบียนหรือนำส่งล่าช้าจะเกิดอะไรขึ้น ? ตามกฎหมายระบุเอาไว้ชัดเจนเลยว่าจะต้องนำส่ง หากส่งช้าหรือไม่นำส่งจะมีความผิดทางกฎหมาย จะมีโทษเป็นการปรับที่กรรมการหรือผู้ถือหุ้นจะต้องเสีย 2000 บาท/คน ซึ่งถ้าคิดเป็นจำนวนเงินก็คงไม่น้อยเลย ฉะนั้นแล้วอย่าลืมนำส่งเอกสารหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 แต่นายทะเบียนกันด้วยนะ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลังและกิจการเองก็จะดำเนินไปได้อย่างถูกกฎหมายด้วย

    ใครต้องยื่นบอจ.5 บ้าง

    พอบริษัทเรามีเอกสารหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 แล้วจะต้องยื่นด้วย แล้วใครที่จะยื่นบ้าง บุคคลธรรมดาจำเป็นจะต้องมีและยื่นไหม คำตอบคือไม่เลย บริษัทเท่านั้นมีหน้าที่จะต้องนำส่ง จำเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดก็ไม่มี บอจ.5 อยู่แล้ว แต่ถ้าบริษัทจำกัดจำเป็นมากนะที่จะต้องยื่นให้ถูกต้อง แล้วจะต้องยื่นตอนไหน คือถ้าเป็นบริษัทจำกัดจะต้องมีการเสนองบการเงินต่อผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติในการประชุมใหญ่ใน 4 เดือน นับจากวันปิดรอบบัญชี แล้วจากนั้นก็ต้องส่งข้อมูล บอจ.5 ภายใน 14 วัน หลังจากวันประชุมนั่นเอง

    นอกจาก บอจ.5 แล้วหนังสือรับรองบริษัทก็ต้องนำส่งไหม หนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 นั้นแม้จะทำงานด้วยกันเวลาที่จะต้องติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ แต่สำหรับเรื่องการนำส่งต่อนายทะเบียนนั้น ไม่ต้องนำส่งเหมือนกับ บอจ.5 เหตุผลก็เพราะว่าในข้อมูลของทางกรมพัฒนาธุรกิจและการค้ามีข้อมูลในส่วนนี้อยู่แล้วนั่นเอง ไม่จำเป็นต้องนำส่งก็ได้ แต่ที่บอจ.5 ต้องนำส่งเสมอเพราะว่าบางครั้งมีการประชุม อาจมีบางอย่างเปลี่ยนไปเช่นผู้ถือหุ้นอาจเปลี่ยนไม่ใช่คนเดิมแล้วนั่นเองเลยจำเป็นจะต้องยื่นทุกครั้ง

    หนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 แก้ไขได้หรือไม่

    หากเป็น บอจ.5 ข้อมูลว่าอย่างไรหลังจบการประชุมก็ต้องนำส่งแบบนั้น ก่อนนำส่งก็ควรตรวจสอบความถูกต้องการเสมอ มันก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละวาระการประชุมด้วยว่ามีใครเข้าใครออกจากการถือหุ้นบริษัทจำกัดนั้น ๆ บ้าง ในส่วนของหนังสือรับรองบริษัทก็สามารถแก้ไขได้ในบางกรณี ก็คือเราต้องแยกกันระหว่างหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 เพราะเอกสารคนละอย่างอยู่แล้ว ในส่วนของหนังสือรับรองบริษัทก็จะแก้ไขได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

    • บริษัทมีการเปลี่ยนชื่อ เพราะยังไงก็ต้องทำเอกสาร แก้เอกสารใหม่แน่ ๆ ถ้าไม่แก้จะมีปัญหาภายหลังได้
    • ทุนจดทะเบียนมีการเปลี่ยนแปลง จะเป็นการเพิ่มหรือลดทุนก็ต้องแก้ไขในเอกสาร
    • ที่อยู่บริการ ย้ายที่ใหม่ เปลี่ยนที่ตั้งก็ต้องแจ้งนะ ต่อให้เป็นบริษัทเดิม ชื่อเดิม กรรมการเดิม แต่ย้ายที่อยู่ไปตั้งตำแหน่งใหม่ ก็จะต้องเปลี่ยนที่หนังสือรับรองบริษัทด้วยทุกครั้ง ถ้าหากไม่เปลี่ยนอาจจะเจอข้อหาเป็นบริษัทปลอมได้เลยนะ
    • กรรมการที่มีอำนาจมีการเปลี่ยนคนก็ต้องแจ้ง บางบริษัทก็มีการเพิ่ม ลด กรรมการหรือผู้ถือหุ้นไปด้วยหลาย ๆ เหตุผลของบริษัทนั้น แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนแบบไหนในเอกสารก็ต้องเปลี่ยนตามเสมอ
    • การก่อตั้งบริษัทเปลี่ยนวัตถุประสงค์ จะเพิ่ม จะลด ตัววัตถุประสงค์การก่อตั้งก็ต้องแจ้งในเอกสารหนังสือรับรองบริษัทด้วยเหมือนกัน

    หนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 สำคัญทั้งคู่ แต่ถ้าเป็นเรื่องข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวกับตัวธุรกิจเหมือนกับบัตรประจำตัวของบริษัทนั้นหากมีอะไรเปลี่ยนไปจะน้อยจะมากก็ต้องมีการแก้ไขหนังสือรับรองให้เรียบร้อยและเป็นปัจจุบันที่สุด และจะต้องเปลี่ยนให้ถูกด้วย เวลาที่เราติดต่อกับหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน สรรพกร หรือที่ไหน ๆ ก็ตาม หากเอกสารทั้ง 2 อย่างถูกต้องอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไร ไม่ต้องเสี่ยงจะเจอค่าปรับหรือการผิดกฎหมายอีกด้วย

    บทสรุป

    บริษัทจำกัดที่ดำเนินธุรกิจจริง ๆ ตามกฎหมายยังไงก็ต้องมีหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 หากทำบริษัทแล้วหละหลวมกับการจัดการเอกสารทั้ง 2 อย่างนี้ อาจจะส่งผลเสียหลายอย่างต่อธุรกิจของคุณได้ และอย่าลืมอะไรที่ควรนำส่งนายทะเบียนก็ต้องทำ นั่นคือตัวเอกสาร บอจ.5 ส่วนหนังสือรับรองบริษัทนั้นไม่ต้องส่ง และอย่าลืมส่งให้ทันรอบด้วยนะ หากล่าช้าหรือไม่ส่งเลยค่าปรับหนักเอาการเหมือนกัน 2000 บาท/คน เลย มีกรรมการในบริษัทกี่คนโดยปรับหมดทุกคนแน่นอน ฉะนั้นนำส่งให้ทันกันด้วยนะ มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงจะเข้าใจแล้วทั้งหนังสือรับรองบริษัทและบอจ.5 ว่าคืออะไร จะได้เข้าใจและนำไปใช้งานได้ถูก📌Station Accout – เรารับจดทะเบียนบริษัทดีที่สุด™

    สำนักงานบัญชีคุณภาพ